Content:
อาการแสดงทางคลินิก
Content on this page:
อาการแสดงทางคลินิก
การซักประวัต
Physical Examination
Content on this page:
อาการแสดงทางคลินิก
การซักประวัต
Physical Examination
อาการแสดงทางคลินิก
อาการของโรคหืดโดยปกติจะสัมพันธ์กับการอุดกั้นของทางเดินหายใจ อาการสามารถหายได้เองหรือหลังได้รับการรักษา ผู้ป่วยมักมีอาการทางระบบทางเดินหายใจมากกว่า 1 ชนิด อาการอาจมีลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ มีความแปรปรวน อาจแย่ลงช่วงกลางคืนหรือหลังตื่นนอน หรืออาจถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น การออกกำลังกาย สารก่อภูมิแพ้ การสัมผัสสารระคายเคือง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ยาบางชนิด การติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
การซักประวัต
สิ่งสำคัญที่ควรประเมินคือ ประวัติส่วนตัวหรือคนในครอบครัวเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ร่วมกับปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น ละอองเกสร ฝุ่น การออกกำลังกาย การติดเชื้อไวรัส ควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ยา aspirin หรือยาในกลุ่ม NSAIDs การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นต้น กรณีอาการหืดหลังการออกกำลังกาย มักแสดงอาการ 5–10 นาทีหลังจากออกกำลังกาย โดยอาการของโรคหืดมักดีขึ้นหลังได้รับยาที่เหมาะสม
สำหรับการประเมินอาการของโรคหืดเบื้องต้นนั้น สามารถใช้แบบประเมินการควบคุมอาการโรคหืดของ GINA 2024 ได้ อย่างไรก็ตามในการตัดสินใจปรับการรักษาต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ปัจจัยเสี่ยงต่ออาการกำเริบรุนแรง การเสื่อมของสมรรถภาพปอด ผลข้างเคียงจากยา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงให้ดูหัวข้อปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้อาการของโรคหืดแย่ลง
*การใช้ยาบรรเทาอาการก่อนออกกำลังกายไม่นับเป็นตัวบ่งชี้ว่าควบคุมโรคหืดได้
เอกสารอ้างอิง: Global Initiative for Asthma (GINA). Global strategy for asthma management and prevention ปรับปรุงเมื่อปี พ.ศ. 2567
นอกจากการประเมินโดยใช้ตารางข้างต้นแล้ว ยังสามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ ที่ผ่านการรับรอง เช่น แบบทดสอบการควบคุมโรคหืด asthma control test (ACT), childhood asthma control test (C-Act), asthma control questionnaire (ACQ), asthma therapy assessment questionnaire (ATAQ) หรือ asthma control scoring system การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้การควบคุมโรคหืดดีขึ้น ได้ผลการประเมินที่เป็นมาตรฐาน ทำซ้ำได้ และทำให้การสื่อสารระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับแบบทดสอบ ACT นี้เป็นเครื่องมือที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ ข้อจำกัดในการทำกิจกรรมประจำวัน อาการหายใจไม่เต็มอิ่ม อาการช่วงกลางคืน ความถี่ในการใช้ยาบรรเทาอาการ และความพึงพอใจต่อการควบคุมโรคโดยรวม โดยพบว่าผลของแบบทดสอบนี้มีความถูกต้อง นำมาใช้ในแหล่งที่มีทรัพยากรจำกัดได้ และช่วยกำหนดระดับการควบคุมโรคหืดของผู้ป่วยและหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้
สำหรับการประเมินอาการของโรคหืดเบื้องต้นนั้น สามารถใช้แบบประเมินการควบคุมอาการโรคหืดของ GINA 2024 ได้ อย่างไรก็ตามในการตัดสินใจปรับการรักษาต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ปัจจัยเสี่ยงต่ออาการกำเริบรุนแรง การเสื่อมของสมรรถภาพปอด ผลข้างเคียงจากยา
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงให้ดูหัวข้อปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้อาการของโรคหืดแย่ลง
ประเมินความสามารถในการควบคุมอาการโรคหืด (ย้อนหลัง 4 สัปดาห์) |
|||
|
ควบคุมได้ดี (ได้ 0 ข้อ) |
ความคุมได้บ้าง (ได้ 1–2 ข้อ) |
ไม่สามารถควบคุมได้ (ได้ 3–4 ข้อ) |
ความถี่ของอาการระหว่างวัน |
ไม่มี |
>2 ครั้งต่อสัปดาห์ |
>2 ครั้งต่อสัปดาห์ |
ข้อจำกัดในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน |
ไม่มี |
มี/ไม่มี |
มี/ไม่มี |
ตื่นกลางดึกหรือไอจากโรคหืดในช่วงนอนหลับ |
ไม่มี |
มี/ไม่มี |
มี/ไม่มี |
การใช้ยาบรรเทาอาการโรคหืด* |
ไม่มี |
>2 ครั้งต่อสัปดาห์ |
>2 ครั้งต่อสัปดาห์ |
*การใช้ยาบรรเทาอาการก่อนออกกำลังกายไม่นับเป็นตัวบ่งชี้ว่าควบคุมโรคหืดได้
เอกสารอ้างอิง: Global Initiative for Asthma (GINA). Global strategy for asthma management and prevention ปรับปรุงเมื่อปี พ.ศ. 2567
นอกจากการประเมินโดยใช้ตารางข้างต้นแล้ว ยังสามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ ที่ผ่านการรับรอง เช่น แบบทดสอบการควบคุมโรคหืด asthma control test (ACT), childhood asthma control test (C-Act), asthma control questionnaire (ACQ), asthma therapy assessment questionnaire (ATAQ) หรือ asthma control scoring system การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้การควบคุมโรคหืดดีขึ้น ได้ผลการประเมินที่เป็นมาตรฐาน ทำซ้ำได้ และทำให้การสื่อสารระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับแบบทดสอบ ACT นี้เป็นเครื่องมือที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ ข้อจำกัดในการทำกิจกรรมประจำวัน อาการหายใจไม่เต็มอิ่ม อาการช่วงกลางคืน ความถี่ในการใช้ยาบรรเทาอาการ และความพึงพอใจต่อการควบคุมโรคโดยรวม โดยพบว่าผลของแบบทดสอบนี้มีความถูกต้อง นำมาใช้ในแหล่งที่มีทรัพยากรจำกัดได้ และช่วยกำหนดระดับการควบคุมโรคหืดของผู้ป่วยและหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้
Physical Examination
เนื่องจากอาการของโรคหืดมีความแปรปรวน ดังนั้นการตรวจร่างกายผู้ป่วยโรคหืดอาจพบผลปกติได้ อย่างไรก็ตาม หากตรวจในช่วงที่มีอาการกำเริบ ผู้ป่วยอาจแสดงอาการดังต่อไปนี้
- ระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ หายใจลำบาก (dyspnea) ทรวงอกขยายตัวมากกว่าปกติ (hyperinflation) มีเสียงหวีดขณะหายใจออก (expiratory wheezing) กรณีที่รุนแรงอาจไม่พบเสียงหวีดโดยเฉพาะในภาวะหอบหืดรุนแรง ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการอุดกั้นของทางเดินหายใจอย่างรุนแรง สำหรับผู้ป่วยหืดเรื้อรังมักมี hyperinflation อาจพบหรือไม่พบเสียงหวีดก็ได้
- การตรวจโพรงจมูก อาจพบอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือริดสีดวงจมูก (nasal polyposis) ร่วมด้วย
- ระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ หายใจลำบาก (dyspnea) ทรวงอกขยายตัวมากกว่าปกติ (hyperinflation) มีเสียงหวีดขณะหายใจออก (expiratory wheezing) กรณีที่รุนแรงอาจไม่พบเสียงหวีดโดยเฉพาะในภาวะหอบหืดรุนแรง ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการอุดกั้นของทางเดินหายใจอย่างรุนแรง สำหรับผู้ป่วยหืดเรื้อรังมักมี hyperinflation อาจพบหรือไม่พบเสียงหวีดก็ได้
- การตรวจโพรงจมูก อาจพบอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือริดสีดวงจมูก (nasal polyposis) ร่วมด้วย