Asthma โรคหืด Initial Assessment

Last updated: 30 September 2025

Content on this page:

Content on this page:

อาการแสดงทางคลินิก

อาการของโรคหืดโดยปกติจะสัมพันธ์กับการอุดกั้นของทางเดินหายใจ อาการสามารถหายได้เองหรือหลังได้รับการรักษา ผู้ป่วยมักมีอาการทางระบบทางเดินหายใจมากกว่า 1 ชนิด อาการอาจมีลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ มีความแปรปรวน อาจแย่ลงช่วงกลางคืนหรือหลังตื่นนอน หรืออาจถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น การออกกำลังกาย สารก่อภูมิแพ้ การสัมผัสสารระคายเคือง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ยาบางชนิด การติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น 

การซักประวัต

สิ่งสำคัญที่ควรประเมินคือ ประวัติส่วนตัวหรือคนในครอบครัวเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ร่วมกับปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น ละอองเกสร ฝุ่น การออกกำลังกาย การติดเชื้อไวรัส ควันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ยา aspirin หรือยาในกลุ่ม NSAIDs การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นต้น กรณีอาการหืดหลังการออกกำลังกาย มักแสดงอาการ 5–10 นาทีหลังจากออกกำลังกาย โดยอาการของโรคหืดมักดีขึ้นหลังได้รับยาที่เหมาะสม 

สำหรับการประเมินอาการของโรคหืดเบื้องต้นนั้น สามารถใช้แบบประเมินการควบคุมอาการโรคหืดของ GINA 2024 ได้ อย่างไรก็ตามในการตัดสินใจปรับการรักษาต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ปัจจัยเสี่ยงต่ออาการกำเริบรุนแรง การเสื่อมของสมรรถภาพปอด ผลข้างเคียงจากยา 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงให้ดูหัวข้อปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้อาการของโรคหืดแย่ลง 

ประเมินความสามารถในการควบคุมอาการโรคหืด (ย้อนหลัง 4 สัปดาห์)

 

ควบคุมได้ดี (ได้ 0 ข้อ)

ความคุมได้บ้าง

(ได้ 1–2 ข้อ)

ไม่สามารถควบคุมได้ (ได้ 3–4 ข้อ)

ความถี่ของอาการระหว่างวัน

ไม่มี

>2 ครั้งต่อสัปดาห์

>2 ครั้งต่อสัปดาห์

ข้อจำกัดในการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

ไม่มี

มี/ไม่มี

มี/ไม่มี

ตื่นกลางดึกหรือไอจากโรคหืดในช่วงนอนหลับ

ไม่มี

มี/ไม่มี

มี/ไม่มี

การใช้ยาบรรเทาอาการโรคหืด*

ไม่มี

>2 ครั้งต่อสัปดาห์

>2 ครั้งต่อสัปดาห์


 *การใช้ยาบรรเทาอาการก่อนออกกำลังกายไม่นับเป็นตัวบ่งชี้ว่าควบคุมโรคหืดได้

เอกสารอ้างอิง: Global Initiative for Asthma (GINA). Global strategy for asthma management and prevention ปรับปรุงเมื่อปี พ.ศ. 2567  

นอกจากการประเมินโดยใช้ตารางข้างต้นแล้ว ยังสามารถใช้เครื่องมืออื่น ๆ ที่ผ่านการรับรอง เช่น แบบทดสอบการควบคุมโรคหืด asthma control test (ACT), childhood asthma control test (C-Act), asthma control questionnaire (ACQ), asthma therapy assessment questionnaire (ATAQ) หรือ asthma control scoring system การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้การควบคุมโรคหืดดีขึ้น ได้ผลการประเมินที่เป็นมาตรฐาน ทำซ้ำได้ และทำให้การสื่อสารระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

สำหรับแบบทดสอบ ACT นี้เป็นเครื่องมือที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ ข้อจำกัดในการทำกิจกรรมประจำวัน อาการหายใจไม่เต็มอิ่ม อาการช่วงกลางคืน ความถี่ในการใช้ยาบรรเทาอาการ และความพึงพอใจต่อการควบคุมโรคโดยรวม โดยพบว่าผลของแบบทดสอบนี้มีความถูกต้อง นำมาใช้ในแหล่งที่มีทรัพยากรจำกัดได้ และช่วยกำหนดระดับการควบคุมโรคหืดของผู้ป่วยและหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ 

Physical Examination

เนื่องจากอาการของโรคหืดมีความแปรปรวน ดังนั้นการตรวจร่างกายผู้ป่วยโรคหืดอาจพบผลปกติได้ อย่างไรก็ตาม หากตรวจในช่วงที่มีอาการกำเริบ ผู้ป่วยอาจแสดงอาการดังต่อไปนี้ 
 - ระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ หายใจลำบาก (dyspnea) ทรวงอกขยายตัวมากกว่าปกติ (hyperinflation) มีเสียงหวีดขณะหายใจออก (expiratory wheezing) กรณีที่รุนแรงอาจไม่พบเสียงหวีดโดยเฉพาะในภาวะหอบหืดรุนแรง ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการอุดกั้นของทางเดินหายใจอย่างรุนแรง สำหรับผู้ป่วยหืดเรื้อรังมักมี hyperinflation อาจพบหรือไม่พบเสียงหวีดก็ได้ 
 - การตรวจโพรงจมูก อาจพบอาการของโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือริดสีดวงจมูก (nasal polyposis) ร่วมด้วย